RESEARCH


สรุปงานวิจัย
เรื่อง ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยที่ได้รับ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ กับแบบสืบเสาะหาความรู้
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบ
1) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ 
2) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 
3) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการกับแบบสืบเสาะหาความรู้ 

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
          เด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 50 คน จาก 15 โรงเรียนของกลุ่มโรงเรียนเก้าสุพรรณิการ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 1 
ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบ 2 ขั้นตอน (two stage sampling) คือ 
          ขั้นที่ 1 สุ่มอย่างง่ายโดยการจับสลากใช้โรงเรียนเป็นหน่วยสุ่มจาก 15 โรงเรียน ให้เหลือ 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดวังน้ำเย็น จำนวนเด็กปฐมวัย 28 คน และโรงเรียนวัดคูบัว จำนวนเด็กปฐมวัย 22 คน 
          ขั้นที่ 2 สุ่มอย่างง่ายโดยการจับสลาก เพื่อเลือกวิธีการจัดประสบการณ์ ได้แก่ โรงเรียนวัดวังน้ำเย็น เป็นกลุ่มที่1ใช้วิธีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ และโรงเรียนวัดคูบัว เป็นกลุ่มที่ 2 ใช้วิธีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 
1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ 
2) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 
3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.813 วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติการทดสอบที

ขั้นตอนดําเนินการทดลอง 
ในขั้นตอนการทดลอง ผู้วิจัยนําเครื่องมือที่สร้างขึ้นไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง เด็กปฐมวัยระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โดยมีขั้นตอนการทดลองดังนี้ 
1. ดําเนินการสอบก่อนเรียน (pre - test) กับนักเรียนทั้งสองกลุ่ม แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นแบบทดสอบชุดเดียวกันทั้งสองกลุ่ม 
2. ผู้วิจัยได้ดําเนินการทดลองสอนตามแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้กับกลุ่มทดลอง ได้แก่ 
          1.) กลุ่มทดลองที่ 1 โรงเรียนวัดวังน้ําเย็น กลุ่ม โรงเรียนเก้าสุพรรณิการ์จังหวัดสุพรรณบุรีโดยใช้ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ จํานวน 4 แผน ใช้เวลา 6 สัปดาห์สัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 40 นาที 
          2) กลุ่มทดลองที่ 2 โรงเรียนวัดคูบัว กลุ่มโรงเรียนเก้าสุพรรณิการ์จังหวัดสุพรรณบุรีโดยใช้ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้จํานวน 24 แผน ใช้เวลา 6 สัปดาห์สัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 40 นาที 
3. เมื่อเสร็จสิ้นการดําเนินการตามที่ กําหนดไว้แล้วทําการทดสอบหลังเรียน (post - test) กับนักเรียนทั้งสองกลุ่ม ด้วยแบบทดสอบวัดทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็น แบบทดสอบชุดเดียวกันทั้งสองกลุ่ม 
4. นําแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ไปวิเคราะห์โดยวิธีการทาง สถิติเพื่อทดสอบสมมุติฐานต่อไป 

การวิเคราะห์ข้อมูล 
ผู้วิจัยได้ดําเนินการ วิเคราะห์ข้อมูลตามลําดับขั้นตอน 
1. วิเคราะห์เปรียบเทียบทักษะกระบวน การทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ก่อนและหลังการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ โดยใช้สถิติการ ทดสอบที (t-test แบบ dependent) 
2. วิเคราะห์เปรียบเทียบทักษะกระบวน การทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ก่อนและหลังการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ สถิติการทดสอบที (t-test แบบ dependent) 
3. วิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย 

ผลการวิจัย
1. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ของเด็กปฐมวัย หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ของเด็กปฐมวัย หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการกับแบบสืบเสาะหาความรู้ ไม่แตกต่างกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น